วันนี้ผมได้มีโอกาสลองใช้ Portable SSD จากแบรนด์ Lexar รุ่น SL600 ขนาดความจุ 512GB ซึ่งได้นำมาทดลองกับอุปกรณ์ทั้ง 4 ชิ้นได้แก่ Macbook, iPad, iPhone และ Samsung ซึ่งทั้งสามอุปกรณ์ก็รองรับพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ Type C จึงได้รับประโยชน์จากพอร์ตไปเต็มๆ
อ่านตามหัวข้อ
ก่อนอื่นผมขอแจกแจงสเปคของเจ้าตัว SSD นี้ก่อนนะครับ
สรุปสเปคของ Lexar Professional SL600
- ความจุ: 512GB
- อินเตอร์เฟซ: USB 3.2 Gen2x2 (USB Type-C)
- ความเร็วอ่านสูงสุด: 2000MB/s
- ความเร็วเขียนสูงสุด: 2000MB/s
- ขนาด: 112.6 x 59 x 10.6 มม.
- น้ำหนัก: 64 กรัม
- วัสดุตัวเครื่อง: อลูมิเนียม
- ระบบป้องกันข้อมูล: รองรับการเข้ารหัส AES 256 บิต ผ่านซอฟต์แวร์ Lexar DataShield
- ช่วงอุณหภูมิการทำงาน: 0°C ~ 70°C
- ช่วงอุณหภูมิการจัดเก็บ: -40°C ~ 85°C
- รองรับระบบปฏิบัติการ: Windows 11/10/7/8, Mac OS X 10.6+, Android 4.4+
- การรับประกัน: รับประกันแบบจำกัด 5 ปี
ซื้อ Lexar Professional SL600 ที่ไหน
ผมได้เจ้าตัวนี้มาจากร้าน Big Camera สนนราคาอยู่ที่ 2,490 บาท และลองหาข้อมูลใน Shopee แล้วไม่เจอตัว 512GB เลยครับ จะมีแต่ 1TB ขึ้นไปที่ราคาราว 4,000 บาท ใครที่ต้องการซื้อตัวเริ่มต้นอาจจะลองมองหาที่ร้าน Big Camera ใกล้บ้านก่อน ส่วนใครที่อยากได้สเปคจัดเต็มและมีโค้ดส่วนลดเพิ่ม ก็สามารถมา ซื้อ Lexar Professional จาก Shopee ได้นะครับ
ฟีลลิ่งการจับถือ และการพกพา
สัมผัสที่ได้ถือ Lexar ตัวนี้ขอชมเลยว่า เบามากกกกก ด้วยน้ำหนักเพียง 64 กรัม และผิวสัมผัสแบบด้านๆ สำหรับผมรู้สึกว่าจับถนัดมือมาก เค้าทำที่จับแบบ ห่วง Carabiner จะคล้องกับสาย หรือล็อคไว้ที่ไหน ก็ทำได้ง่ายๆ เลยครับ เมื่อเทียบกับความจุ ความแรงที่ได้มา ถือเทียบกับโทรศัพท์แล้ว คุ้มที่จะเพิ่มเจ้า Lexar พกไว้ในชีวิตประจำวันเลยครับ
การใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆ
Macbook
เริ่มจากอุปกรณ์ที่ผมใช้งานโอนย้ายไฟล์บ่อยที่สุดอย่าง Macbook ก่อน เมื่อเสียบ SSD เข้ากับเครื่องแล้วก็จะมี Drive โผล่ขึ้นมาที่ Finder ทันทีในชื่อ “Lexar” เมื่อเข้าไปใน Drive ก็จะพบกับไฟล์ที่ติดมา เป็นตัวติดตั้งโปรแกรม มีทั้ง EXE สำหรับ Window และ App สำหรับ Mac OS และคู่มือสำหรับทั้งสองระบบ ซึ่งจะติดตั้งหรือไม่ก็ได้ โปรแกรมนี้มีหน้าที่ช่วยแบคอัพและปกป้องข้อมูลด้วยการเข้ารหัสเฉยๆครับ ผู้ใช้สามารถใช้งานโดยไม่ต้องผ่านโปรแกรมได้ตามปกติ
หลังจากทำการติดตั้ง App ใน Mac แล้วเมื่อเปิด App ขึ้นมา ให้ตั้งค่ารหัสผ่านให้เรียบร้อย หลังจากนั้น ก็เริ่มต้นใช้งานด้วยรหัสที่ตั้งไว้ได้เลยครับ
ในด้านประสิทธิภาพ เนื่องจากพอร์ตการเชื่อมต่อของ Macbook Air M3 ที่ผมใช้ เป็นพอร์ต USB-C USB 4/Thunderbolt 4 แต่พอร์ตของ SSD เป็น USB 3.2 Gen2x2 ดังนั้น จะไม่ได้ประโยชน์สูงสุดครับ แต่ถึงยังไงเมื่อทดสอบความเร็วแล้วจะวิ่งประมาณครึ่งนึงของ Spec นั่นก็คือ เกือบๆ 1 GB ครับ
ทดลองโยนไฟล์ขนาด 3GB จากเครื่องเข้า SSD และ SSD เข้าเครื่อง ใช้เวลาเท่าๆ กัน ที่ประมาณ 5 วินาที ถือว่าเร็วน่าพอใจแล้วครับ
iPad
สำหรับ iPad ที่ผมใช้เป็น iPad Pro M1 และได้ลองใช้โปรแกรมวัดความเร็ว Disk ที่ชื่อ Diskio ดูเหมือนว่าจะบัค เพราะแสดงค่าอ่านมาถึง 5,600 MB/s ซึ่งมากกว่าสเปคไป 3 เท่า เลยข้ามไปทดลองโยนไฟล์จริงๆเลย โดยใช้ไฟล์วิดีโอขนาด 12.2 GB จาก iPad เข้ามาที่ SSD ใช้เวลาราวๆ 19 วินาที คำนวณย้อนกลับแล้วได้ความเร็วจริงที่ ~650 MB/s ครับ
iPhone
iPhone 16 Pro ขนาดความจุ 128GB ถือว่าเป็นเพื่อนรักกับ Lexar เพราะลำพังตัวไอโฟนเอง ปกติแล้ว สามารถบันทึกวิดีโอ ProRes ได้ที่ความละเอียด 1080p ที่ 30fps และ 25fps เท่านั้น เมื่อบันทึกลงหน่วยความจำภายใน แต่พอมีเจ้า Lexar เชื่อมต่อเข้ามาแล้ว ก็จะสามารถทะลุขีดจำกัด ถ่ายได้ถึงขั้น 4K 120FPS ซึ่งขนาดไฟล์มโหฬารมาก (อัด 6 วินาทีใช้พื้นที่ 2GB) และในกล้องโชว์ว่าจะถ่ายได้ประมาณ 17 วินาที ซึ่งจริงๆแล้ว แค่เอามาถ่าย 1080p – 4K 60FPS ก็สบายใจไปได้มากแล้วครับ เพราะจะสามารถอัดเกือบชั่วโมงเลย
Samsung
สำหรับ Samsung S24 Ultra ตามสเปคแล้วพอร์ตการเชื่อมต่อเป็น เป็นพอร์ต USB-C 3.2 ผมยังไม่เจอแอปที่ช่วยวัดความเร็ว SSD ได้ เจอเพียงแต่วัดความเร็วของ Disk ในตัวอุปกรณ์เอง เลยทำการโยนไฟล์ไปเลย ไฟล์ขนาด 3GB โยนเข้า SSD ใช้เวลา 10 วินาที ทั้งขาเข้า-ออกครับ
สรุป Lexar Professional SL600: เบา แรง คุ้มค่า
Lexar Professional SL600 เป็น SSD แบบพกพาที่โดดเด่นด้วยน้ำหนักเบาเพียง 64 กรัม และความเร็วในการอ่าน/เขียนสูงสุดถึง 2000MB/s ทำให้เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการโอนถ่ายไฟล์ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น Macbook, iPad, iPhone หรือ Samsung ต่างก็สามารถใช้งานร่วมกับ Lexar SL600 ได้อย่างราบรื่น
แม้ว่าการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บางรุ่นอาจไม่ได้รับประโยชน์จากความเร็วสูงสุดของ SSD แต่ก็ยังคงให้ประสิทธิภาพที่น่าประทับใจในการถ่ายโอนข้อมูล นอกจากนี้ Lexar SL600 ยังมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ Lexar DataShield ที่ช่วยปกป้องข้อมูลด้วยการเข้ารหัส AES 256 บิต ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณจะปลอดภัย
ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก และประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม Lexar Professional SL600 จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่มองหา SSD แบบพกพาที่มีความจุ 512GB ในราคาที่ไม่แพง
